Understanding how to teach phonics effectively is extremely important these days. As my own experience through teaching my kids, I could point out that for familiar words; a permanent memory is quickly recalled of the entire word. Just like a skillful typist the response is immediate. Nevertheless, this is usually a short-term solution to learning how to read as well as spell correctly. Being a parents or maybe teachers, we have to understand how to teach phonics clearly in order to encourage our children to figure out any unfamiliar word.
What is actually phonics?
Some of you might already hear about phonics. Simply let us clarify the main aspect of Phonics, which is a relationship between letters and sounds.. The purpose of phonics teaching is to educate children the most frequent sound-spelling relationships so they can decode, or even sound out words. This particular deciphering capability is a vital aspect in reading achievement.
The foundation of excellent readers is the understanding of connection among letters and sounds (Phonics). It implies that kids must have a solid knowledge of letters prior to teaching them phonics. Children whose comprehension of letters just isn’t well developed when they start school require a lot of properly structured practice which will help them learn the way to identify, name, and also write letters. Therefore, as parents, we could help prepare our kids by introducing them all letters little by little everyday.
The foundation of good reader is understanding the connection between letters and sounds. By this it means that children must have a good knowledge of alphabet.
Beginning Consonants
We can find some worksheets to teach kids about beginning consonants (any letter in the alphabet that is not a vowel) which help them learn about letter as well as sound. and below is some worksheets for you to download and print out for your children.
ในอดีตระบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทยนั้นเน้นใช้ระบบท่องจำคำศัพท์เป็นส่วนใหญ่อย่างที่ผู้ใหญ่หลายๆท่านอาจจะคุ้นหูกับคำว่า “เอาการศัพท์” เป็นการทดสอบคำศัพท์ในห้องเรียนว่าเราจำได้มากน้อยแค่ไหนนอกจากท่องจำศัพท์แล้วการอ่านออกเสียงแต่ละคำนั้นก็จะออกตามครูผู้สอนเท่านั้นถ้าครูผู้สอนออกเสียงไม่ถูกต้องเด็กก็จะจำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องการเรียนการสอนนี้จะไม่กระตุ้นกระบวนการความคิดของเด็กไม่สามารถต่อยอดได้ด้วยตนเองศัพท์คำไหนที่เด็กไม่เคยเรียนไม่เคยท่องก็จะสะกดไม่ได้และอ่านออกเสียงไม่ถูกโชคดีที่ในปัจจุบันโรงเรียนส่วนใหญ่ได้นำระบบโฟนิคส์ (Phonics) เข้ามาปรับสอนทำให้เด็กรู้จักเสียงที่ถูกต้องของแต่ละตัวอักษรอย่างที่น้องแอฟฟี่ออกเสียงในวีดีโอค่ะ A=แอะ, B=เบอะ, C=เขอะ เป็นต้น เด็กจะเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับการออกเสียงที่ถูกต้องของแต่ละพยัญชนะก่อน เหมือนการปูพื้นฐานให้อ่านก-ฮให้ชัดเจนซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับกระบวนการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้าน (ฟัง พูด อ่าน เขียน) ในอนาคตแบบยั่งยืน หลังจากที่เด็กๆได้เรียนรู้ทักษะพื้นฐานการออกเสียงแต่ละตัวอักษรอย่างแม่นยำแล้วเราจะเริ่มสอดแทรกเสียงที่ซับซ้อนมากขึ้นอีก และการผสมคำในลำดับต่อๆไป
จากที่คุณแม่ได้เห็นพัฒนาการของน้องแอฟฟี่หลังเริ่มเรียนการออกเสียง(Sound) A-Z น้องสามารถสะกดคำศัพท์ต่างๆได้ดีแทนการท่องจำ ตัวอย่างเช่น CAT = เขอะ-แอะ-เทอะ=แคท และสำเนียงก็ดีด้วยค่ะ ทำให้น้องเกิดความเชื่อมั่นและสนุกที่จะหัดสะกดคำต่างๆด้วยตัวเอง ถือเป็นการกระตุ้นกระบวนการความคิดของเด็กอย่างแท้จริงโดยไม่ต้องคอยให้ครูเขียนให้ดูหรืออ่านให้ฟังแต่ประการใด คุณแม่เชื่อว่าพื้นฐานที่ดีจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความรักในการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นรากฐานที่สำคัญยิ่งของการศึกษาในขั้นสูงต่อไป
อย่างไรก็ตามคำศัพท์ในภาษาอังกฤษมีหลายคำที่มีรากศัพท์มาจากภาษาอื่น และคำยกเว้นพวก sight word (คำที่พบเจอบ่อยในชีวิตประจำวันแต่ไม่สามารถสะกดโดยใช้หลักโฟนิคส์ได้) ดังนั้นการอ่านหนังสือให้ลูกฟังเยอะๆจะช่วยเด็กเรื่องนี้ได้ดีมาก การอ่านที่ดีคุณแม่ควรชี้คำศัพท์ที่เราอ่านไปตามเนื้อเรื่องและให้เด็กดูด้วยค่ะ สิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนการเปิดโลกทัศน์ให้เด็กคำศัพท์ต่างๆจะผ่านหูและผ่านตา และเกิดการเก็บสะสมไว้ในคลังสมองของเด็กค่ะ โดยที่คุณแม่และคุณลูกอาจจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำค่ะ หลายๆครั้งที่น้องแอฟฟี่สามารถสะกดคำศัพท์ที่ไม่ตรงตามหลัก phonics และค่อนข้างยากสำหรับเด็กอายุ 4 ขวบ เช่น daughter, table คุณแม่แปลกใจมากและถามน้องว่ารู้ได้อย่างไรว่าสะกดอย่างนี้ น้องแอฟฟี่ตอบว่ามันมาจากในหัวหนู คุณแม่เลยลองถามคุณครูที่โรงเรียนว่าเคยสอนศัพท์พวกนี้บ้างหรือไม่ซึ่งทางคุณครูก็ไม่ได้สอน แต่ท่านบอกว่าน่าจะมาจากการอ่านหนังสือเยอะทำให้จำคำศัพท์ได้เยอะนอกจากนั้นคุณแม่ยังสามารถสอนคำศัพท์ไปในตัวพร้อมกันได้ด้วยค่ะ รับรองว่าฐานข้อมูลในคลังสมองน้องจะเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจถ้าเราเอาใจใส่เด็กอย่างจริงจังและถูกวิธีค่ะ
คุณแม่ได้รวบรวมคำศัพท์ Sight word ทั้งหมด แล้วหาภาพมาใส่ประกอบ พร้อมแต่งตัวอย่างประโยค ของแต่ละคำเอง นอกจากนี้ยังมี activity สำหรับฝึกหัดเขียนคำศัพท์ รวมทั้ง ตัดตัวอักษร แปะกาว ประกอบเป็นคำศัพท์แต่ละคำ ซึ่งจะช่วยให้เด็กๆ สนุก ไม่เบื่อหน่าย และ จำคำศัพท์ได้ดีมากๆ ค่ะ คุณแม่ทำขึ้นมาเพื่อสอนน้องเจมมี่ และ แอฟฟี่ค่ะ ตัวอย่างตามรูปด้านล่าง ถ้าคุณแม่ท่านใดสนใจนำไปสอนเด็กๆที่บ้าน สามารถไปดาวน์โหลด ได้ที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยนะคะ แบ่งปันกันไปเพื่อสร้างเด็กสามภาษากันค่ะ
Download Sight Words Worksheets
ด้านล่างเป็นวิดีโอ ที่น้องแอฟฟี่หัด sound ตัวอักษรภาษาอังกฤษจากขนมว่าง ค่ะ อย่าลืมนะคะ Learning is Fun..
ตารางการ sound แต่ละตัวอักษรด้านล่าง ใช้ดูประกอบวิดีโอค่ะ
A | แอะ | N | เหนอะ |
B | เบอะ | O | โอะ |
C | เขอะ | P | เผอะ |
D | เดอะ | Q | เขวอะ |
E | เอะ | R | เหรอะ |
F | เฝอะ | S | เสอะ |
G | เกอะ | T | เถอะ |
H | เหอะ | U | อะ |
I | อิ | V | เหวอะ** |
J | เจอะ | W | เหวอะ |
K | เขอะ | X | ซือ*** |
L | เหลอะ* | Y | เหยอะ |
M | เหมอะ | Z | ซือ**** |
* เอาลิ้นแตะฟันบนด้านใน
** เอาฟันบนวางไว้บนริมฝีปากล่าง แล้วเป่าลมออกมา
*** ฟันติดกัน เป่าลมออกมา
**** เอาลิ้นดันเพดานด้านบน ลำคอจะสั่นเวลาเป่าลมออกมา
คำที่คนไทยมักออกเสียงผิดคือ R และ L ค่ะ ลองฟังน้องแอฟฟี่ออกเสียงดีๆนะคะ ถ้าเด็กๆ ฝึกออกเสียง R กับ L คล่องแล้ว ให้น้องฝึกอ่านศัพท์คำว่า “really” จนคล่องนะคะ รับรองคราวนี้พูดภาษาอังกฤษ ฝรั่งไม่งง แน่นอนค่ะ แต่ถ้าน้องๆ ยัง สับสน การออกเสียง r กับ l อยู่ ลองดูวิดีโอด้านล่างนี้ค่ะ จะเป็นวิดีโอที่น้องเจมมี่ และแอฟฟี่ สอนการออกเสียง r และ l โดยเฉพาะค่ะ
คำศัพท์ตามวิดีโอค่ะ
การ ออกเสียง ตัว l | คำ ที่ ออกเสียง r |
Lick | Roll |
Like | Ribbon |
Left | Rice |
Love | Rug |
Lonely | Rabbit |
Lift | Rat |
Long | Rice |
Luck | Really |
Little | |
Life | |
Lion |
วิธี ออกเสียง r เราจะห่อปากหน่อยๆค่ะ
ขณะที่เด็กๆฝึกการออกเสียง เราสามารถพัฒนาทักษะด้านการเขียนไปด้วยได้นะคะ วิดีโอด้านล่าง น้องแอฟฟี่ สอนเขียนตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์ใหญ่ พร้อมกับ sound แต่ละตัวอักษรให้เพื่อนๆได้ทบทวนกันอีกทีค่ะ
วีดีโอน้องเจมมี่และแอฟฟี่นี้ทำขึ้นมาเพื่อให้ทั้งคุณแม่ๆ มีแรงจูงใจในการเริ่มต้นการพัฒนาภาษาอังกฤษให้ลูกน้อยอย่างถูกวิธีค่ะ ผิดพลาดประการใดน้อมรับความคิดเห็นเพื่อมาปรับปรุงในวีดีโอต่อๆไปค่ะ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นเพื่อการพัฒนาลูกๆของเรากันนะคะ